อาชีพค้าขายกู้เงินให้ผ่านฉลุย
แน่นอนว่าเมื่ออาชีพค้าขายกู้เงินซื้อบ้านก็มักต้องคอยตอบคำถามเรื่องรายได้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลาและ เสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธอนุมัติวงเงินกู้และสามารถกู้บ้านผ่านฉลุย จึงควรออกแบบรายได้ให้สวยและมีความแน่นอน โดยพิสูจน์จากความสม่ำเสมอของ การเดินบัญชีทั้งการเอาเงินเข้าและออกหรือสร้าง Statement ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เพราะแต่ละธนาคารมักจะขอดู รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพิสูจน์ความมั่นคงของรายได้สำหรับผู้กู้ประกอบอาชีพค้าขาย
ชัดเจนเรื่องเอกสาร
สิ่งสำคัญที่ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้แก่ผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ นักธุรกิจ SME หรือเหล่าพ่อค้าแม่ค้า คือหลักฐาน เอกสารกู้บ้านต่างๆ เพื่อให้การกู้เงินซื้อบ้านง่ายขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้- ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์
เป็นเอกสารที่เหมาะกับกลุ่มนักธุรกิจ SME ที่ได้จดทะเบียนการค้า และทะเบียนพาณิชย์ แต่ถ้าเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ จะใช้วิธีการแคปเจอร์หน้าจอเว็บไซต์ หรือเพจในเฟสบุ๊ค เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าผู้กู้ได้ประกอบอาชีพนั้นจริง
- หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
สำหรับหลักฐานหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ 50 ทวิ เป็นเอกสารที่เรามนุษย์ฟรีแลนซ์มักได้รับหลังจากได้ค่าตอบแทน โดยนอกจากจะต้องเก็บไว้เป็นเอกสารในการยื่นภาษีแล้ว ยังต้องนำ 50 ทวิมาใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารอีกด้วย
- หลักฐานการเสียภาษี
ทุกต้นปีบรรดาบุคคลมีรายได้จะเตรียมตัวยื่นภาษีกับกรมสรรพากร ดังนั้นเอกสาร ภงด. 90 ถือว่าเป็นหนึ่งในหลักฐานการแสดงรายได้ทั้งปีของมนุษย์ฟรีแลนซ์ที่ต้องใช้เพื่อกู้เงิน
- ประวัติเครดิตบูโร
ในยุคสังคมไร้เงินสด หลายคนหันมานิยมใช้จ่ายผ่านระบบ iBanking รวมถึงการผูกบัตรเครดิตไปกับแอปพลิเคชันต่างๆ และนั่นเปรียบเสมือนหลักฐานสำคัญในการแสดงความสามารถชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของผู้กู้ เพราะถ้าหากมีประวัติการผ่อน ชำระตรงต่อเวลา การสร้างความเชื่อมั่นและอนุมัติวงเงินกู้นั้นก็มีความเป็นไปได้สูง แต่ในทางตรงกันข้ามหากผู้กู้อยู่ในบัญชีรายชื่อแบล็คลิสต์ โอกาสที่จะได้รับวงเงินกู้จากธนาคารนั้นก็น้อยไปตามปัจจัยด้านลบด้วยเช่นกัน
- บัญชีเงินออม
หลักฐานชิ้นสุดท้ายในการสร้างความมั่นใจให้กับธนาคาร เพื่อแสดงศักยภาพและความมีวินัยด้านการเงิน ดังนั้นผู้กู้ที่ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ จึงควรเปิดบัญชีสำหรับการออมอีกหนึ่งบัญชี และควรออมเงินอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 6 เดือน ก่อนทำการขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร
จับคู่กู้ร่วม
เป็นเคล็ดลับเหมาะกับผู้กู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับเคล็ดลับที่ 1 และ 2 เรียกว่าเปรียบเสมือนทางเลือกสุดท้ายให้กับอาชีพค้าขาย และผู้ประกอบอาชีพอิสระให้กู้บ้านได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีการหาผู้กู้ร่วมในเครือญาติ หรือสามีภรรยามาร่วมรับภาระผ่อนวงเงินกู้ด้วยกัน ซึ่งสำหรับอาชีพค้าขายจะขอกู้ร่วมจำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน
